ทำไมต้องจัดฟัน

ความผิดปกติในการเรียงตัวของฟันที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อรูปร่างปากและใบหน้า เช่น ฟันซ้อนเก, การสบฟันไม่ดี, มีช่องห่างระหว่างฟัน ฯลฯ การจัดฟันจะช่วยแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่สบกันผิดปกติและเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ช่วยสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม และเพิ่มความมั่นใจ

รู้จักกับการจัดฟัน

การจัดฟันเป็นวิธีทันตกรรมที่ช่วยทำให้ฟันเรียงตัวอย่างสวยงามด้วยเทคนิคของทันตแพทย์ จัดได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ช่วยให้ฟันไม่ซ้อนและจะเรียงตัวสวย สามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น และส่งผลให้การเกิดฟันผุหรือเหงือกอักเสบน้อยลง ไม่มีการสบกระแทก

การจะตัดสินใจว่าควรเลือกจัดฟันแบบใดให้เหมาะกับแต่ละบุคคลนั้น ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาถึงข้อดี – ข้อเสีย สำหรับช่วยตัดสินใจเกี่ยวกับชนิดของการจัดฟันให้เหมาะกับสภาพฟัน ก็นับว่าเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่ง

การจัดฟันแบบโลหะ

สำหรับวิธีที่ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือ การจัดฟันแบบโลหะแบบรัดยาง (Metal braces) ซึ่งเป็นการจัดฟันแบบที่เห็นกันโดยทั่วไปที่มีการใส่ยางรอบๆ เครื่องมือ

การจัดฟันประเภทนี้มีองค์ประกอบใหญ่ 3 ส่วน คือ
1. Bracket
2. ลวด
3. ยางดึงฟัน (ติดลวดกับ Bracket)

เป็นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ (Bracket) ไว้ที่ผิวด้านหน้าฟัน แล้วใส่ลวดผ่านร่อง Bracket และใช้ยาง (O-Ring) รัดลวดให้ติดกับเครื่องมือจัดฟัน เพื่อทำการเคลื่อน ดึงและเรียงฟันให้สวยงาม การรักษาต้องเข้ามาพบแพทย์ทุกเดือน เพื่อปรับลวดและเปลี่ยนยางดึงฟัน ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับในแต่ละกรณี ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาตัวเครื่องมือให้ไม่ต้องใช้ยางรัดที่เครื่องมือแต่จะมีคลิปอยู่บนตัวเครื่องมือ ซึ่งทำหน้าที่รัดลวดแทน O-Ring นั่นเอง เครื่องมือลักษณะนี้ เรียกว่า self ligating bracket

ข้อดีของการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือดังกล่าวได้แก่ แรงเสียดทานระหว่าง bracket และลวดลดลงทำให้สามารถเคลื่อนฟันได้รวดเร็วขึ้น เกิดแรงในการเคลื่อนฟันน้อยลง จึงอาจจะช่วยลดอาการปวดในระหว่างการจัดฟันได้ นอกจากนี้ตัวเครื่องมือยังมีลักษณะเล็กและไม่ต้องใช้ยางรัด ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายและไม่เป็นที่สะสมของคราบจุลินทรีย์

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือแบบไหนคนไข้ควรดูแลเครื่องมือตามคำแนะนำและมาพบทันตแพทย์ตามกำหนดเพื่อผลสำเร็จของการรักษา